ประวัติศาสตร์

ภูมิประเทศ

การปกครอง 

สถานที่ท่องเที่ยว






























สถานที่ท่องเที่ยว
จองโหลว (Zhong Lou)

จองโหลว (Zhong Lou) ตึกที่ชาวไหโข่วรู้จักเป็นอย่างดี ตึกจองโหลวสร้างจากอิฐแดง มีหอนาฬิกาแบบกอธิคถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มพ่อค้าในปี 1928 เพื่อช่วยให้ประชาชนทั่วไปทราบเวลาและยังคงรักษาเวลาจนถึงในปัจุบัน หอนาฬิกาจะตีระฆังทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

วัดแห่งการระลึกถึงห้าขุนนาง (Five Officials Memorial Temples)

หลายศตวรรษที่ผ่านมา เกาะไฮหนานมีบทบาทสำคัญและเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการเป็นเจ้าบ้านที่คอยต้อนรับสู้ – ทั้งแขกผู้มาเยือน รวมถึงนักเขียนที่ถูกเนรเทศและนักปฏิรูปทางการเมือง ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนตกแต่งอย่างสวยงาม ห่างจากกลางใจเมืองไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ในยุคราชวงศ์หมิง (1368 - 1644) วัดแห่งการระลึกถึงห้าขุนนางได้จัดงานฉลองเพื่อระลึกถึงขุนนางหลังจากถูกเนรเทศมายังเกาะไฮหนานด้วยบทกวียกย่องเกียรติ ซู ฉี

อุทยานธรณีกลุ่มภูเขาไฟซินซานแห่งชาติ (Shishan Volcanic Cluster National Geopark)

อยู่ห่างจากตัวเมืองไหโข่วไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร คุณจะพบร้านเช่ารถมอเตอร์ไซต์ อุทยานธรณีกลุ่มภูเขาไฟซินซานแห่งชาติมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 11,000 เฮกตาร์ (หนึ่งเฮกตาร์คือประมาณ 10,000 ตารางเมตร) ยูเนสโก้ได้บันทึกชื่ออุทยานแห่งนี้ที่มีภูเขาไฟที่ยังสงบอยู่มากกว่า 40 ลูก ตรงบริเวณที่น่าสนใจคือปล่องภูเขาไฟมาอานลิง นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปในปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดได้ ในบริเวณนี้คุณจะพบกับกลุ่มหินรูปทรงต่างๆ ที่เกิดจากการแข็งตัวของลาวา อุโมงค์ภูเขาไฟและต้องขอบคุณธรรมชาติสำหรับความอุดมสมบูรณ์ของดินภูเขาไฟที่มีแร่ธาตุและสารอาหารมากมาย นอกจากนี้คุณจะเห็นการทำเกษตรแบบจีนโบราณนั้นคือแปลงนาเขียวชอุ่มมากมาย

สุสานไฮรุย (Hai Rui)

สุสานไฮรุยใช้สำหรับรฝังศพผู้ถูกเนรเทศที่มีชื่อเสียงจนเป็นที่จดจำหรือขุนนางที่ประพฤติตนดี สุสานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1589 บนเนื้อที่ขนาดครึ่งเฮกตาร์ ทุกวันนี้จัดให้เป็นแหล่งอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดไฮหนาน

หมู่บ้านรงตัง (Rongtang)

หมู่บ้านรงตังมีอายุมากกว่า 900 ปีตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของถ้ำลาวา บ้าน กำแพง ถนน แท่นบูชาและสุสานต่างทำมาจากหินภูเขาไปทั้งสิ้น จุดเด่นคือซากปรักหักพังของเจดีย์รูฟู โครงสร้างเก่าแก่ที่สุดของไฮหนาน สร้างขึ้นจากหินภูเขาไฟในสไตล์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศอินเดีย

 พิพิธภัณฑ์จังหวัดไฮหนาน (Hainan Provincial Museum)

เพื่อทราบถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาะโดยสรุป คุณต้องมาเที่ยวชมที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดไฮหนาน ที่อยู่ทางตะวันออกของสวนวัฒนธรรมของจังหวัดไฮหนาน มีการแสดงงานต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นภาพวาดที่แสดงถึงการใช้ชีวิตในหมู่บ้านช่วงต้นของการสร้างเมืองไฮหนานในรูปแบบสามมิติและของโบราณที่ถูกขุดพบจากซากเรืออับปางของฮัวกวนเจี๋ยวที่หนึ่ง ราชวงศ์ซ่ง (1127-1279) เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ของพ่อค้าชาวจีนถูกค้นพบในปี 1996

 เมืองซานย่า

คำขวัญประจำเมือง : ซานย่าแสนสวย โรแมนติกแดนสวรรค์
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลไห่หนาน ซึ่งเป็นเกาะในเขตร้อนแห่งเดียวของประเทศจีน ทางตะวันออกผ่านฟิลิปปินส์ถึงมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ทางใต้ผ่านออสเตรเลียถึงมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ผ่านคาบสมุทรอินโดจีนถึงมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก โดยได้รับยกย่องเป็น "ประตูทางใต้ของจีน"                               เมืองซานย่าตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลไห่หนาน เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนเพียงแห่งเดียวของประเทศจีน ตัวเมืองซานย่ามีสภาพแวดล้อมแสนวิเศษ ทิวทัศน์ธรรมชาติของเมืองประกอบด้วยภูเขา ทะเลและแม่น้ำ เมืองซานย่าได้รวบรวม 10 ทรัพยากรการท่องเที่ยว ซึ่งได้แก่ แสงแดด ทะเล หาดทราย อากาศ ป่าไม้ น้ำพุร้อน สัตว์ ถ้ำหิน เรือกสวนไร่นา และขนบธรรมเนียมประเพณี นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น ภูเขาหนานซาน ถ้ำต้าเสี่ยวเทียน อ่าวย่าหลง หน้าผาสวรรค์จรดทะเล สวนสาธารณะกวางเหลียวหลัง เกาะซีเต่าหรือเกาะตะวันตก เกาะอู๋จือโจว ทะเลต้าตง เป็นต้น และเป็นเขตที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวชายทะเลในเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจีน                                               เมืองซานย่าเป็นประตูเข้าจีนของประเทศต่างๆ ในเขตร้อน มีความได้เปรียบเป็นพิเศษด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ในการติดต่อระหว่างประเทศ เมืองซานย่าก็เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่เปิดกว้างที่สุดของจีน ทางรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายพิเศษที่เอื้อประโยชน์ต่อเมืองซานย่า ได้แก่ เสนอเงื่อนไขพิเศษให้สามารถอยู่ได้ 15 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ ให้กับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวสำคัญ 21 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ รัสเซีย เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ไทย ฝรั่งเศส และสำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ สามารถทำวีซ่าเมื่อถึงปลายทางที่สนามบินเมืองซานย่าได้ (Visa on arrival)

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในซานย่า
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของเกาะไหหลำ คือ เมืองซันย่า ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมงจากเมืองไหโข่ว                                         เมืองซันย่ามีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ไปฟังเสียงระฆังที่วัด หนานซัน ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใต้สุดของจีน ไปชมวิวสวยงามที่ “สุดขอบฟ้า” ไปดำน้ำในทะเลจีนใต้ เลือกซื้อศิลปหัตถกรรมของชาวชนชาติหลีซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นดั้งเดิมของไหหลำ ยามพลบค่ำ บาร์เบียร์ริมทะเลเริ่มคึกคักดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหลายให้ออกมานั่งเล่น

วัดหนานซัน
วัดหนานซัน ซึ่งเป็นสวนพุทธธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีไฮไลท์สำคัญคือ การสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความสูงถึง 108 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล ชาวไหหลำเชื่อกันว่า หลังจากได้มีการริเริ่มสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ทำให้เกาะไหหลำรอดพ้นจาก พายุขนาดใหญ่มานับแต่นั้น ในแต่ละปี บรรดาพุทธศาสนิกชนจึงหลั่งไหลมาสักการะเจ้าแม่กวนอิม ชำระจิตใจให้ผ่องใส่ นอกจากนี้ วัดหนานซันยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาวและภัตตาคารอาหารเจไว้คอยต้อนรับแขกชั้นสูงอีกด้วย

“ลู่หุยโถว” หรือ  อนุสาวรีย์กวางเหลียวหลัง
“ลู่หุยโถว” หรือ อนุสาวรีย์กวางเหลียวหลัง เป็นจุดชมวิวของเมืองซันย่า คุณจะเห็นทัศนียภาพ ความเจริญของเมืองทั้งหมดจากบนภูเขาสูงแห่งนี้ ซึ่งตอนคุณอยู่ด้านล่างจะไม่รู้เลยว่า เมืองเล็กๆ เช่นนี้จะมีความใหญ่โตถึงเพียงนี้ ตึกสูงใหญ่แฝงตัวปะปนอยู่กับขุนเขา แสงแดดยามอัสดงเลียไล้ไปกับเรือสินค้าลำเล็กๆ ไปจนถึงลำใหญ่ขนาดมหึมาที่จอดเทียบท่าอยู่ในอ่าวท่าเรือน้ำลึกอันเงียบสงบ และแล้วสีส้มเข้มก็ค่อยๆ ย้อมท้องฟ้าสีครามก่อนรัตติกาลจะมาเยือน แม้ยามอัสดงในแต่ละที่จะมีความสวยงามแตกต่างกัน แต่พระอาทิตย์จมหายไปกับผืนทะเลที่ซันย่าก็ไม่ได้สวยงามแพ้ที่ใดๆ เลย

สถานที่ที่น่าสนใจ
ภูเขาอู๋จรื่อ
ภูเขาอู๋จรื่อเป็นสถานที่ป่าฝนเขตร้อนดั้งเดิมสามผืนใหญ่ที่ยังคงเป็นธรรมชาติที่สุดในโลกทั้งสูงที่สุดและโดดเด่นที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวสีเขียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวนิเวศวิทยาที่น่าไป โดยเฉพาะเขตภูเขาอู๋จรื่อ ที่ยังคงวิถีชีวิตของชนเผ่าเหมียวและหลีไว้อีกทั้งยังมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจ                                                                                                                                                    ทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำสรุยหม่านซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของน้ำแร่ภูเขาอู๋จรื่อ เป็นแหล่งต้นแม่น้ำแห่งที่สองของแม่น้ำชางฮวา ภายในสถานที่ท่องเที่ยวมีจุดชมทัศนียภาพที่โดดเด่นแห่งหุบเขาป่าฝนเขตร้อนและป่าฝนภูเขาเขตร้อนแห่งภูเขาอู๋จรืออันได้แก่ ทะเลสาบสวย ผีเสื้อสีสวยเต้นระบำ ต้นไม้นานาพรรณ ไม้แก่สูงตระหง่าน เถาวัลย์หนาแน่น เมืองอู๋จรื่อซานตั้งอยู่พื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองภาคกลางตอนใต้ของเกาะไหหลำ โอบล้อมไปด้วยภูเขา ป่าไม้หนาแน่น ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองป่ามรกต” เป็นสถานที่อาศัยรวมตัวของชนเผ่าต่างๆภาคกลางมณฑลไหหลำ มีคำกล่าวว่า “ไม่มาภูเขาอู๋จรื่อ ก็ไม่นับว่ามาถึงไหหลำ”ภูเขาอู๋จรื่อตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของเกาะไหหลำ ยอดสูง 1867 เมตร เป็นยอดเขาสูงอันดับหนึ่งของเกาะไหหลำ มีชื่อเรียกว่า “หลังคาเกาะไหหลำ” ภูเขาอู๋จรื่อมีเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเนื้อที่ สองแสนแปดหมื่นเอเคอ เป็นเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลไหหลำ และได้ดำเนินการนำเสนอให้ลงทะเบียนภูเขาอู๋จรื่อเข้าเป็นมรดกธรรมชาติของโลก ภูเขาอู๋จรื่อมีเกาะของตนที่เป็นสัญลักษณ์ภูมิอากาศเขตร้อน สิ่งสำคัญที่ซ่อนเร้นในเกาะไหหลำก็คือป่าไม้ธรรมชาติและแหล่งกำเนิดพืชพันธุ์สัตว์ป่า พืชพันธุ์ธรรมชาติแบ่งเป็นสามโซนพืชแนวตั้ง 11 แห่งพืชที่อยู่เป็นกลุ่ม จากการสำรวจขั้นต้น มีพืชระดับสูง 3800 กว่าชนิด ในจำนวนนี้มีพืชยาก 23 ชนิด สัตว์บกที่มีกระดูกสันหลัง 298 ชนิด โดยเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองระดับประเทศ 34 ชนิด สัตว์ป่าคุ้มครองระดับมณฑล 17 ชนิด
                ภูเขาอู๋จรื่อนับได้ว่าเป็นที่รวมของสัตว์ป่าและพันธุ์ไม้นานาชนิดของไหหลำ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ มีความหลากหลายของระบบนิเวศ มีความหลากหลายทางชีววิทยา และมีความหลากหลายของสายพันธุ์ ในขณะเดียวกันภูเขาอู๋จรื่อก็เป็นป่าไม้ดั้งเดิมที่มีเนื้อที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไหหลำ เป็นของไหหลำ และก็เป็นของประเทศด้วยที่มีระบบนิเวศวิทยาป่าฝนเขตร้อนที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อย่างดีที่สุด และก็เป็นสถานที่หนึ่งเดียวที่มีสัตว์และพืชนานาพันธุ์ใช้เป็น “ที่หลบภัย”
               ภูเขาอู๋จรื่อยังเป็นพื้นที่ป่าฝนเขตร้อนของประเทศที่โดดเด่นที่สุดเป็นเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยมีป่าเขตร้อนที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากที่สุดและความสูงสัมพัทธ์มากที่สุด พืชพันธุ์ไม้เขตร้อนมากที่สุดและพืชพันธุ์ไม้แนวตั้งสมบูรณ์แบบที่สุด นอกเหนือไปจากนี้ ภูเขาอู๋จรื่อยังเป็นแหล่งต้นกำเนิดแม่น้ำซานต้าไหหลำ ควบคุมระบบน้ำของทั่วทั้งเกาะ เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงทั้งเกาะ เป็นศูนย์รวมจิตใจของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วทั้งเกาะ ภูเขาอู๋จรื่อมีสิ่งที่หายาก เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีการเกิดใหม่และหาค่าใดมาเปรียบไม่ได้ เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของทุกคน

ลักษณะพื้นที่
    จากบันทึกข้อมูลทางธรณีวิทยา รูปร่างพื้นฐานของภูเขาหินถูกปกคลุมไปด้วยกรดกลางที่พ่นออกมามากว่า14ล้านถึง17ล้านปี เนื่องจากธรรมชาติได้รับการกัดเซาะทำลายอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน ยอดเขาจึงเป็นยอดแหลมออกมาดังลักษณะนี้ คล้ายกับนิ้วมือและจึงเป็นที่มาของชื่อ บรรยากาศภายในเป็นกลุ่มภูเขาแหลม หุบเขาแม่น้ำเป็นแนวยาว พื้นที่เป็นแนวเอียงเล็กน้อยจากตะวันตกไปตะวันออก
    
ภูมิอากาศ
    พื้นที่ภูเขาอู๋จรื่อฤดูหนาวอบอุ่นฤดูร้อนเย็นสบาย ไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมและคลื่นความหนาวเย็น มีอากาศที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร จึงทำให้พืชพันธุ์สัตว์ป่าที่ภูเขาอู๋จรื่อมีมากมายหลากหลายชนิด พืชกระจายพันธุ์กลายเป็นจุดชมวิวธรรมชาติเขตร้อน ที่ดินส่วนใหญ่เป็นหินกรด บวกกับการทับถมของเศษซากใบไม้แห้งของพืชพันธุ์ไม้มาหลายศตวรรษ ที่ดินจึงอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชพันธุ์ไม้เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน
    เนื่องด้วยภูเขาอู๋จรื่อสูงจากระดับน้ำทะเล ละติจูดต่ำ ป่าไม้แน่นทึบ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติน้ำ แสงสว่าง ความร้อนที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีอากาศที่อบอุ่น เหมาะสมกับเป็นอากาศพื้นที่ภูเขาเขตร้อน อุณภูมิโดยเฉลี่ยตลอดปี 22.4 องศา อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนมกราคม 17 องศา อุณหภูมิเฉลี่ยเดือนกรกฎาคม 26 องศา อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.9 องศา ปริมาณน้ำฝน่โดยเฉลี่ยตลอดปี 1690 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนมากที่สุดตลอดปี 2810.4 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุดตลอดปี 1055.5มิลลิเมตร ปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ตลอดปี 84 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณแสงแดดเฉลี่ยตลอดปี 2000 ชั่วโมง ได้รับการขนานนามว่า “วิลล่าธรรมชาติ” และ “เมืองมรกต”

โปรแกรมทัวร์เเนะนำ