สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
เมืองถูกแบ่งเป็น 40 เขตการปกครองย่อย ดังนี้
เขต 15 เขต ประกอบด้วย
เขตปาหนานเป็นแหล่งอุตสาหกรรมโลจิติกส์หลายแห่ง ที่สำคัญคือ เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ฉงชิ่ง เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เขตปาหนานของนครฉงชิ่ง ซึ่งทิศเหนือติดกับท่าเรือกั่วหยวน ทิศใต้ติดกับเส้นทางระบบรางสายตะวันออกเฉียงใต้และวงแหวนทางด่วน ทิศตะวันออกเชื่อมกับทางด่วนฉงชิ่ง – หูหนาน และทิศตะวันตกอยู่ใกล้กับทางด่วนฉงชิ่ง – กุ้ยโจว ซึ่งจะอยู่ห่างจากใจกลางนครฉงชิ่งประมาณ 30 นาที และห่างจากสนามบินนานาชาติเจียงเป่ย นครฉงชิ่งเพียง 40 นาทีเท่านั้น “เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ฉงชิ่ง” เป็นหนึ่งใน “3 เขต 4 ท่าเรือ” ของศูนย์โลจิสติกส์แห่งชาติในนครฉงชิ่ง ที่ได้มีการรวบรวมโครงการขนาดใหญ่ 20 โครงการไว้ด้วยกันจากกลุ่มบริษัทชั้นนำของจีน อาทิ กลุ่มวิสาหกิจจิงตง (ร้านค้าชั้นนำบนโลกอินเทอร์เน็ต) กลุ่มวิสาหกิจ China South City กลุ่มวิสาหกิจ Global Logistic Properties (บริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ในจีน) เป็นต้น นอกจากนี้ “เขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ฉงชิ่ง” ยังตั้งอยู่ในศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศของจีนตะวันตกและศูนย์กลางอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ต้นแม่น้ำแยงซีเกียง อีกทั้งยังเชื่อมกับเขตเศรษฐกิจของนครฉงชิ่ง – แม่น้ำแยงซีเกียง เขตเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ และศูนย์รวมโลจิสติกส์แห่งชาติของเขตเศรษฐกิจยูนนาน – กุ้ยโจว – คุนหมิง ซึ่งฐานโลจิสติกส์แห่งนี้จะกลายเป็นสถานีสำคัญแห่งหนึ่งที่จะเชื่อมนครฉงชิ่งกับนานาประเทศ นับได้ว่าตั้งอยู่ในทำเลทองและมีเส้นทางการคมนาคมขนส่งที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว
เขตเป่ยเป้ย จำนวนประชากร 6.3 ล้านคน อยู่ทางด้านตะวันตก มีแม่น้ำเจียหลิงเจียงไหลผ่านกลาง เป็นที่ตั้งของ “เขตสินค้าทัณฑ์บนเหลียงลู่ชุ่นทาน” ซึ่งเป็นเขตปลอดภาษีแห่งแรกที่อยู่ในดินแดนตอนในของจีนก่อตั้งขึ้นในปี 2009
- เขตฉางโซ่ว *
- เขตต้าตู้โขว่ *
- เขตฝูหลิง *
- เขตเจียงเป่ย
เขตเจียงเป่ย จำนวนประชากร 4.5 ล้านคน อยู่ทางด้านใต้ติดกับแม่น้ำเจียหลิงเจียงและแยงซีเกียงตลอดแนว อยู่ติดกับเขตอวีจง ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองฉงชิ่ง
- เขตจิ่วหลงโพว *
- เขตหนานอาน *
- เขตเฉียนเจียง *
- เขตซาผิงปา *
- เขตซวงเฉียว *
- เขตว่านเซิ่ง *
- เขตว่านโจว *
- เขตหยูเป่ย *
- เขตหยูจง *
* ไม่มีข้อมูลของเขตนั้นๆเลยค่ะ
4 เมืองเทียบเท่าอำเภอ (County-level city) ประกอบไปด้วย
- เขตเหอชวน *
- เขตเจียงจิน *
- เขตหย่งชวน*
- เขตหนานชวน *
* ไม่มีข้อมูลของเขตนั้นๆเลยค่ะ
17 อำเภอ (County) ประกอบไปด้วย
- อำเภอปี้ซาน *
- อำเภอเฉิงโขว่ *
- อำเภอต้าจู๋
ผาหินสลักต้าจู๋ (Da Zu Rock Carving) เมืองต้าจู๋
(ห่างจากฉงชิ่งประมาณ 160 กิโลเมตร) ทั่วทั้งเมืองมีงานศิลปะรูปปั้นหินแกะสลักโบราณ จารึกคำสอนภาษาจีน เรื่องราวทางพุทธศาสนานิกาย มหายาน หลักธรรมลัทธิเต๋า และปรัชญาคำสอนของขงจื๊อ ที่กระจายอยู่บนหน้าผากว่า 75 จุด ในบริเวณภูเขา 5 ลูก คือ เป่าติ่งซาน, เป่ยซาน, หนันซาน, สือเหมินซาน และสือจ้วนซาน ยิ่งใหญ่อลังการจนยูเนสโกต้องมาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมระดับ 5 A ในปี ค.ศ.1999 ทั้งนี้ ผาหินแกะสลักในต้าจู๋เกิดจากแรงศรัทธาของคนโบราณที่เพียรพยายามแกะสลักหินให้เป็นรูปร่างอันน่าทึ่ง ภาพแกะสลักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมนูนสูง ที่แกะกว้านลูกลงไปจนเห็นรูปลักษณะชัดเจน อุดมไปด้วยชีวิตชีวา และลีลาความสวยงาม อีกทั้งยังมีการลงสีสันหลากหลาย แถมบางจุดยังมีประติมากรรมลอยตัวให้ยลกันอีกต่างหาก ทั้งนี้ คนโบราณเชื่อว่า เป๋าติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงมีการแกะสลักขึ้นที่นี่ เพื่อให้เป็นศาสนสถาน ซึ่งมีทั้งความเชื่อของพุทธแบบมหายานและของลัทธิเต๋า โดยมีภาพเด่นๆ อาทิ ถ้ำปฏิบัติธรรม ที่แกะเป็นภาพพระตัวแทนพระพุทธเจ้ากับสาวกอีก 12 รูป แสดงธรรม ภาพสลักเทพเจ้าต่างๆ พระนอนองค์โตยาว 32 เมตร สูง 7 เมตร ภาพคำสอนขงจื้อ ภาพนิทานพื้นบ้าน ภาพวิถีชีวิตยุคโบราณ ภาพความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ภาพการตัดสินของคณะกรรมการตัดสินความดีความชั่วว่าเมื่อตายแล้วคนๆ นั้น ควรขึ้นนรกหรือสวรรค์ ซึ่งมีภาพประกอบเป็นนรกสวรรค์อย่างน่ายล
- อำเภอเตี้ยนเจียง *
- อำเภอเฟิงตู
เมืองเฟิงตู (เมืองผี) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง อำเภอวั่นเซี่ยนเป็นเมืองขนาดกลาง แต่ก่อนเป็นเมืองนรกจำลองในสมัยราชวงศ์หมิงมีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 400 กว่าปี โดยสร้างตามความเชื่อของลัทธิเต๋าและพุทธผสมผสานกันเกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษ อีกทั้งยังมีมีการจำลองเล่าเรื่องราวตามตำนานต่างๆ อีกมากมาย
- อำเภอเฟิ่งเจี่ย *
- อำเภอไคเสี้ยน *
- อำเภอเหลียงผิง *
- อำเภอฉีเจียง *
- อำเภอหรงชาง *
- อำเภอถงเหลียง *
- อำเภอถงหนาน *
- อำเภออูหลง
เมืองอู่หลง อยู่ห่างจากฉงชิ่งประมาณ 160 กม. ใช้เวลาเดินทางประมา สองชั่วโมงครึ่ง ถนนจากฉงชิ่งไปอู่หลงเป็นสี่เลนตลอดสาย ระหว่างทางมีปั้มจุดพักรถ ห้องน้ำก็ถือว่าสะอาด มีร้านค้าสามารถลงไปซื้อขนมหรือน้ำมากินได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่เมืองอู่หลงที่ไม่ควรพลาดได้แก่ ถ้ำฝูหยงต้ง มรดกโลกทางธรรมชาติอีกแห่งของจีน อยู่ห่างจากตัวเมืองอู่หลงออกไปประมาณ 20 กม.
- อำเภออูซาน *
- อำเภออูซี *
- อำเภอหยุนหยาง
- อำเภอจงเสี้ยน *
*ไม่มีข้อมูล
4 เขตปกครองตนเอง (Autonomous county) ประกอบไปด้วย
- เขตปกครองตนเองชนชาติเหมียวและถู่เจีย เผิงสุ่ย *
- เขตปกครองตนเองชนชาติถู่เจียฉือจู้ *
- เขตปกครองตนเองชนชาติถู่เจียซิ่วซาน *
- เขตปกครองตนเองชนชาติถู่เจียและเหมียวโหยว่หยาง *
*ไม่มีข้อมูล
*สถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่ไม่ได้บอกว่าอยู่ในเขตไหนของมลฑลฉงชิ่ง*
อาคารสำคัญของสมาคมหูกว่าง
“สมาคมหูกว่าง” เป็นสถานที่เก่าแก่ที่บอกเล่าความมาเป็นไปต้นกำเนิดเมืองนี้ในยุคโบราณ ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงในลักษณะพิพิธภัณฑ์, “ศาลามหาประชาคม” (ต้าหลี่ถัง) หนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมือง
หงหยาต้ง คอมเพล็กซ์ในอาคารแบบจีนโบราณ
“เมืองโบราณ” เมืองเก่าในราชวงศ์ซ่ง ที่อนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ยล, “หงหยาต้ง” คอมเพล็กซ์ในรูปทรงอาคารโบราณขนาดใหญ่ ภายในมีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายสินค้าที่ระลึก ฯลฯ ที่นี่ย่ามค่ำคืนถือเป็นจุดนัดพบพักผ่อนของชาวเมือง และจุดชมวิวชั้นดี อีกทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สำคัญของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
สะพานฟ้า อู่หลง
ฉงชิ่ง มี “อู่หลง” (Wulong) เป็นเมืองตากอากาศ ที่แวดล้อมไปด้วยขุนเขา ทัศนียภาพสวยงาม อากาศดี และมากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ทางการจีนเขากำลังสนับสนุนการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ สำหรับคนไทยที่ไม่สันทัดกับวิถีแบบจีนโดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำปราบเซียน สมชายก็ได้พาเราไปแวะกินข้าวในร้านอาหารบ้านทุ่ง ที่มีกับข้าวอร่อยๆทำสดรสมือชาวบ้านให้เลือกกิน พร้อมตบท้ายกันด้วยสุราพื้นบ้านให้ร้อนท้องวูบวาบเป็นการอุ่นเครื่องก่อนมุ่งสู่ “สะพานฟ้า” หนึ่งในดินแดนมหัศจรรย์ธรรมชาติของเมืองนี้ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.200 การไปชมสะพานฟ้า ทางเมืองจีนมีเส้นทางอันน่าทึ่งให้ “ตะลอนเที่ยว” ได้ตื่นเต้นกับลิฟต์แก้วที่ให้เราดิ่งลึกลงไปในหุบเหวสูงกว่า 80 เมตร จากนั้นก็เป็นเส้นทางเดินเท้าชมทัศนียภาพอันสุดอลังการ สะพานฟ้า หรือที่บ้างก็เรียกว่า “หลุมฟ้า สะพานสวรรค์” เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกจนกลายเป็นหลุมธรรมชาติขนาดยักษ์ที่เบื้องล่าง โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ โรงเตี๊ยมโบราณ และ 3 สะพานฟ้า โรงเตี๊ยมโบราณ เป็นจุดพักระหว่างทางสมัยโบราณ ซึ่งในหลุมหุบเขาแห่งนี้สมัยโบราณถือเป็นเส้นทางลัดจากเสฉวนไปเหอหนาน เมื่อคณะต่างๆ เดินทางมาถึงที่นี่ก็จะมาแวะพักค้างแรมที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เพราะหากเดินทางต่อไปยามค่ำคืนอาจถูกโจรปล้นดักชิงสินค้า สิ่งของ ทรัพย์สินเงินทอง โรงเตี๊ยมโบราณปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในรูปแบบเดิม แถมยังโด่งดังขึ้นมาแบบก้าวกระโดดหลังได้รับเลือกเป็นฉากสำคัญทั้งฉากดราม่าและฉากต่อสู้บู๊เลือดสาด ในภาพยนตร์เรื่อง “ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง” (Curse of the Golden Flower) ของยอดผู้กำกับ “จาง อี้ โหมว” ที่มี 3 ดาราชั้นนำมาหักเหลี่ยมเฉือนคมความตายกันนำโดย โจว เหวิน ฟะ, เจย์ โชว์ และดาราสาวสวยในดวงใจของ “ตะลอนเที่ยว” คือ “กง ลี่”
|